ฐานข้อมูลวิจัยด้านสุขภาพจิตและจิตเวช

ผู้วิจัย/Authors: ปราณีต วรวสุวัส

ชื่อเรื่อง/Title: การประเมินผลโครงการรณรงค์แปรงฟันเวลาหลังอาหารเย็น

แหล่งที่มา/Source: ที่ประชุมวิชาการกรมสุขภาพจิต ครั้งที่ 6 วันที่ 6-8 กันยายน 2543

รายละเอียด / Details:

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานโครงการรณรงค์แปรงฟันเวลาหลังอาหารเย็นและตื่นนอนตอนเช้าแก่ผู้ป่วยจิตเวชที่รับไว้รักษาในโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงกึ่งทดลอง (Quasi – experimental study) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัยเป็นผู้ป่วยจิตเวชจำนวน 263 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น ระหว่างเดือน มกราคม – กันยายน 2540และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยจำนวน 23 คน เลือกตัวอย่างเพื่อทำการศึกษาแบบเจาะจง(purposive sampling) ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แผนการสอนเรื่องความรู้ในการดูแลอนามัยช่องปาก แผนการสอนและการสาธิต วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง การฝึกปฏิบัติกิจกรรมแปรงฟันหลังการสอน แผนการจัดกิจกรรมและดูแลให้ผู้ป่วยปฏิบัติกิจกรรมการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือในเวลาหลังอาหารเย็นและเวลาตื่นนอนตอนเช้าเป็นระยะเวลา 8 เดือนตลอดโครงการ แบบสัมภาษณ์ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่และแบบบันทึกรายงานที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 1. ข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วย การปฏิบัติกิจกรรมแปรงฟัน ความพึงพอใจต่อการให้ผู้ป่วยปฏิบัติกิจกรรมแปรงฟันและความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยต่อโครงการรณรงค์แปรงฟันเวลาหลังอาหารเย็นและตื่นนอนตอนเช้า ใช้วิธีแจกแจงความถี่และหาค่าร้อยละ 2. ความรู้ของผู้ป่วย ใช้วิธีหาค่ามัชฌิมเลขคณิต ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน 3. ใช้สถิติ T-Test เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนก่อนและหลังให้ความรู้ ผลการศึกษา ผู้ป่วยจิตเวชที่ได้รับการสอนการดูแลอนามัยช่องปากมีความรู้เรื่อง “ข้อปฏิบัติในการดูแลป้องกันโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ” มากกว่าก่อนสอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P‹0.001 จำนวนผู้ป่วยจิตเวช ที่ปฏิบัติกิจกรรมแปรงฟัน อย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนดำเนินงาน 35.08 % ผู้ป่วยจิตเวชที่แปรงฟันได้ถูกวิธีหลังสอนมีจำนวน 24.33 % เพิ่มขึ้นจากเดิม 14.06 % ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ป่วยจิตเวช ต่อการจัดให้มีการแปรงฟัน พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่พึงพอใจต่อการดูแลให้มีการแปรงฟัน คิดเป็นร้อยละ 86.69 และโดยเหตุผลส่วนใหญ่คือ เพราะทำให้รู้สึกปากสะอาด ผลการศึกษาความเห็นของเจ้าหน้าที่ต่อโครงการพบว่า 1. ข้อดีหรือจุดเด่นของโครงการ ส่วนมากตอบว่าทำให้สุขภาพช่องปากผู้ป่วยดีขึ้น 78.26% รองลงมาคือทำให้ผู้ป่วยมีความรู้ในการดูแลสุขภาพช่องปากเพิ่มมากขึ้น 39.13% และทำให้กลิ่นปากลดลงหรือไม่มี ทำให้น่าคุยและน่าสร้างสัมพันธภาพด้วย 34.78% ตามลำดับ 2. ข้อเสียของโครงการ ส่วนมากตอบว่าไม่มีข้อเสีย 43.7% รองลงมาคือขนแปลงแข็งเกินไป 21.74 % และคนไข้บางคนไม่รู้เรื่อง ทำให้ยากต่อการนำผู้ป่วยปฏิบัติกิจกรรมแปรงฟัน 13.04% ตามลำดับ 3. ข้อเสนอแนะและข้อควรปรับปรุง ส่วนมากตอบว่าโครงการนี้เหมาะสมแล้วทำต่อเนื่องตลอดไปและยาสีฟันควรเบิกเพิ่มได้ถ้าไม่พอ 39.13 %รองลงมาคือแปรงสีฟันควรให้มีคุณภาพมากกว่านี้ 34.78% จากผลการศึกษาทั้งหมดพบว่า ผู้ป่วยจิตเวชมีความรู้มีอนามัยช่องปากและการแปรงฟันที่ถูกวิธีเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยมีความคิดเห็นส่วนมากพอใจต่อโครงการและรู้สึกว่า ผู้ป่วยมีอนามัยช่องปากดีขึ้น มีกลิ่น ปากลดลง ทำให้น่าคุย น่าสร้างสัมพันธภาพด้วย ดังนั้นจึงก่อให้เกิดผลดี

Keywords: แปรงฟัน, เจ้าหน้าที่, ดูแลผู้ป่วย

ปีที่เผยแพร่/Year: 2543

Address: โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่น กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

Code: 201430008203

ISSN/ISBN: 974-299-644-7

Country of publication: ประเทศไทย

Language: ภาษาไทย

Category: Paper ได้รับคัดเลือกนำเสนอในที่ประชุมวิชาการกรมสุขภาพจิต

Download: -