ฐานข้อมูลวิจัยด้านสุขภาพจิตและจิตเวช

ผู้วิจัย/Authors: บงกช เชี่ยวชาญยนต์, จุฑารัตน์ จุลรอด, กนกวรรณ ศิลปกรรมพิเศษ, สมพงษ์ เอียดประพาล

ชื่อเรื่อง/Title: ภาวะสุขภาพจิตและพฤติกรรมป้องกันการติดเชื้อเอดส์ของหญิงขายบริการทางเพศ ที่ให้บริการแก่ชาวต่างชาติ จังหวัดสงขลา

แหล่งที่มา/Source: เอกสารการวิจัย พ.ศ. 2536

รายละเอียด / Details:

ปัจจัยสำคัญในการแพร่กระจายของโรคเอดส์ของประเทศไทย คือ การมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะปัจจุบันกลุ่มหญิงขายบริการทางเพศถูกมองว่าเป็นตัวการแพร่กระจายโรคที่สำคัญที่สุดกลุ่มหนึ่ง เกือบทุกองค์กรจึงมุ่งหวังที่จะให้หญิงขายบริการทางเพศมีพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อเอดส์ที่ถูกต้องแต่การจะปรับเปลี่ยนให้หญิงกลุ่มนี้มีพฤติกรรมที่ถูกต้อง จำเป็นจะต้องอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทั่วไป ภาวะทางจิตใจและพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อเอดส์ที่เคยปฏิบัติมา การศึกษาคร้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยดังกล่าวของกลุ่มหญิงขายบริการฯ ในจังหวัดสงขลา ที่ให้บริการแก่ชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน ทั้งนี้เพื่อนำผลการศึกษาไปใช้เป็นแนวทางการวางแผนควบคุมการแพร่กระจายของโรคในหญิงกลุ่มนี้ ซึ่งน่าจะมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากหญิงขายบริการอื่นๆ การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาแบบ Survey Study กลุ่มตัวอย่างเป็นหญิงขายบริการฯ ในอำเภอหาดใหญ่และอำเภอสะเดา จำนวน 201 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจงจากสถานบริการกามโรคเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ เครื่องมือที่ใช้ในส่วนของภาวะสุขภาพจิตใช้แบบสอบถาม ซึ่งดัดแปลงมาจากแบบทดสอบความเครียด HOS และ CMI ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ ระยะเวลาการประกอบอาชีพ จำนวนวันทำงานต่อเดือน ระดับความเครียดและพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติร้อยละ X2-test และ Correlation ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 78.1 ให้บริการแก่ชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ มีส่วนหนึ่งกล่าวว่าจะไม่รับแขกคนไทยเลย ลักษณะการให้บริการสำหรับกลุ่มตัวอย่างอำเภอหาดใหญ่มักจะให้บริการแก่แขกคนเดียว แบบค้างคืน ในขณะที่อำเภอสะเดามักให้บริการแบบชั่วคราว แขกมากกว่า 1 คนต่อคืน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 55.7 คิดว่าตนเองมีโอกาสติดเชื้อเอดส์ ร้อยละ 57.2 บอกอาการของโรคนี้ได้ ระดับความเครียดเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง 32.57+- 5.87 ปัญหาที่มักจะทำให้ไม่สบายใจที่พบคือ คิดถึงบ้านและปัญหาการเงิน สำหรับพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อพบว่ามีเพียงร้อยละ 20.0 เท่านั้นที่อยู่ในระดับดี และมีร้อยละ 14.9 เท่านั้นที่ใช้ถุงยางอนามัย 100% โดยแขกที่มารับบริการร้อยละ 84.0 ให้เหตุผลว่าไม่เหมือนธรรมชาติและมีกลุ่มตัวอย่างอีกร้อยละ 28.8 เชื่อว่าสามารถป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยการรับประทานยาต่างๆ เช่น ยาแก้อักเสบ ยาขับปัสสาวะ ฯลฯ ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ ได้แก่ จำนวนวันทำงานต่อเดือน (r=-0.2338) ระดับความเครียด (r=-0.3620) และรายได้ (p-value=0.0341) จากการศึกษาครั้งนี้ทำให้เห็นว่าแนวโน้มของการติดเชื้อโรคเอดส์ ในกลุ่มนี้มีโอกาสแพร่กระจายไปได้มากกว่านี้ เมื่อดูจากอัตราการใช้ถุงยาง สาเหตุการไม่ใช้ถุงยาง ของแขกที่มารับบริการรวมทั้งความรู้เรื่องอาการของโรคและการตระหนักต่อการติดโรคของกลุ่มตัวอย่างเพราะมีอุปสรรคหลายอย่างโดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อภาษาระหว่างหญิงบริการกับแขกผู้มารับบริการ ข้อเสนอแนะ คณะผู้วิจัยเชื่อว่าการใช้โปรแกรมทางสุขศึกษาที่เหมาะสมอย่างจริงจัง โดยใช้สื่อหลายรูปแบบ โดยเน้นทั้งในกลุ่มหญิงขายบริการฯ เอง และกลุ่มชาวต่างชาติที่มารับบริการอาจจะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของโรคเอดส์ในกลุ่มนี้ได้

Keywords: AIDS, behavior, behaviour, CMI, HIV, HOS, psychiatry, sex, stress, ความเครียด, เครียด, จิตเวช, จิตเวชศาสตร์, พฤติกรรม, เพศ, โรคเอดส์, สุขศึกษา, โสเภณี, เอดส์

ปีที่เผยแพร่/Year: 2536

Address: โรงพยาบาลประสาทสงขลา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

Code: 318360000001

ISSN/ISBN: -

Country of publication: ประเทศไทย

Language: ภาษาไทย

Category: นิพนธ์ต้นฉบับ

Download: -